เช้า   ..........           สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยาน (สนามบิน ไฟล์ทบินและเวลาเดินทางขึ้นอยู่กับสายการบินที่ท่านเลือก)
 
.......... น.       ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง
.......... น.       เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง ประเทศลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้วนำท่านรับสัมภาระ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองดานัง (เวลาท้องถิ่นประเทศเวียดนามเหมือนกับเวลาท้องถิ่นประเทศไทย)
 
                     นำท่านชมพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง อดีตเป็นพระราชวังหลวงพระบาง พระราชวังที่เคย เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาวสร้างในปี ค.ศ. 1904 สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบวังนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมศิลปะล้านช้างปัจจุบันเปลี่ยนเป็นหอพิพิธภัณฑ์ชมของมีค่าที่เคยเป็นเครื่องใช้สอยของเจ้ามหาชีวิตลาวรวมทั้งของที่ระลึกจากประเทศต่างๆที่เคยมอบให้ประเทศลาว เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีรวมถึงของไทยเคยมอบให้กับลาวด้วยเป็นหอที่ประดิษฐานพระบางพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรสูง1.14 ม. หนัก 54 กก.กล่าวกันว่าทำด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางและของชาวลาวและเป็นที่มาของชื่อ เมืองหลวงพระบาง  ตามชื่อพระบางเดิมเมืองนี้ชื่อเมืองว่าชวา แล้วเปลี่ยนมาเป็น เชียงดง เชียงทอง จากนั้นนำท่านสู่วัดใหม่สุวรรณภูมารามหรือที่ชาวหลวงพระบาง เรียกกันสั้นๆ ว่า \\\\\\\"วัดใหม่\\\\\\\" เคยเป็นที่ประทับ ของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางพระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวัง จวบจนกระทั่งปัจจุบันหลังจากอัญเชิญพระบางจากประเทศเขมรมาประดิษฐานอยู่ที่เมืองนี้ เปลี่ยนชื่อเป็น เมืองหลวงพระบาง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง (1)  

นำคณะเดินทางไปยัง น้ำตกตาดกวางสี ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 30 กม.ผ่านหมู่บ้านชนบทริมสองข้างทาง ชมความงดงามของน้าตก ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงราว 70-80 เมตร ถือเป็นน้าตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง โดยมีสายน้ำทีลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนลงสู่แอ่งน้าที่สดใสมีทางเดินลัดเลาะขึ้นไปสู่ชั้นบน เพื่อชมความงามอีกมมุหนึ่งของน้ำตกอิสระให้ท่านดื่มด่ำกับธรรมชาติ เล่นน้ำ บันทึกภาพอันประทับใจ
 
                  นำท่านชม พระธาตุพูสี ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงถึง 150 ม. ใจกลางของเมืองหลวงพระบางพระธาตุองค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองใครก็ตามที่มาเยือนเมืองนี้จะต้องขึ้นไปบูชาพระธาตุ ถ้าไม่ได้ขึ้นไปบูชาก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองหลวงพระบาง โดยท่านต้องเดินขึ้นบันไดสูงถึง 328 ขั้นขึ้นสู่พูสี ตลอดทางที่ขึ้นนั้น ท่านจะไดสัมผัส ความร่มรื่น และหอมอบอวลไปดงดอกจำปาลาว เข้าวัดเชียงทอง  ชมสิมหลังหลังเก่าแก่ที่สุดและงานฝีมือนายช่างใหญ่ราชสำนักหลวงพระบาง
 
            จากนั้น ชมวัดเชียงทอง วัดหลวงที่สวยที่สุดในหลวงพระบางได้รับการยกย่องให้เป็นอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาวสกุลล้านช้างสร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช สิ่งที่เด่นที่สุดในวัด นี้คือ สิม หรือโบสถ์ที่มีโครงสร้างคล้ายโบสถ์ล้านนามีหลังคาลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นๆเกือบจะถึงพื้นมองด้านหน้า และยังมีโรงเมี้ยนโกศในวัดที่ออกแบบโดยเจ้ามณีวงศ์แกะสลักและตกแต่งลวดลายด้วยเรื่องรามเกียรติ์เป็นฝีมือแกะสลักของช่างหลวงเพี้ยตัน ศิลปินแห่งชาติลาวที่งดงาม
เย็น      รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น (2)  
 
หลังอาหารนำท่านเที่ยวชมตลาดมืดหลวงพระบาง พร้อมนำท่านเดินช็อปปิ้งที่ตลาดกลางคืน (Night Market) เลือกซื้อของฝากของที่ระลึกซึ่งเป็นงานฝีมือของชาวหลวงพระบาง
 
พักผ่อนตามอัธยาศัย ณ โรงแรม 

เช้า         รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)  
 
05.00 น.      เชิญท่านร่วม ทำบุญใส่บาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบางในทุกเช้า พระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ จะออกบิณฑบาต เป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจ และสื่อถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบางและเชิญท่านเดินชม ตลาดเช้าของชาวหลวงพระบาง  หรือจะทานกาแฟที่ร้านประชานิยม ร้านดังในตลาด, เลือกซื้ออาหารพื้นเมือง และของป่า ซึ่งเป็นแบบฉบับของชาวลาว **รายการทัวร์ไม่รวมค่าข้าวเหนียวใส่บาตร 100 บาท**
 
            นำท่านชมพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง อดีตเป็นพระราชวังหลวงพระบาง พระราชวังที่เคย เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาวสร้างในปี ค.ศ. 1904 สถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบวังนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมศิลปะล้านช้างปัจจุบันเปลี่ยนเป็นหอพิพิธภัณฑ์ชมของมีค่าที่เคยเป็นเครื่องใช้สอยของเจ้ามหาชีวิตลาวรวมทั้งของที่ระลึกจากประเทศต่างๆที่เคยมอบให้ประเทศลาว เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีรวมถึงของไทยเคยมอบให้กับลาวด้วยเป็นหอที่ประดิษฐานพระบางพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรสูง1.14 ม. หนัก 54 กก.กล่าวกันว่าทำด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางและของชาวลาวและเป็นที่มาของชื่อ เมืองหลวงพระบาง  ตามชื่อพระบางเดิมเมืองนี้ชื่อเมืองว่าชวา แล้วเปลี่ยนมาเป็น เชียงดง เชียงทอง จากนั้นนำท่านสู่วัดใหม่สุวรรณภูมารามหรือที่ชาวหลวงพระบาง เรียกกันสั้นๆ ว่า \\\"วัดใหม่\\\" เคยเป็นที่ประทับ ของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางพระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวัง จวบจนกระทั่งปัจจุบันหลังจากอัญเชิญพระบางจากประเทศเขมรมาประดิษฐานอยู่ที่เมืองนี้ เปลี่ยนชื่อเป็น เมืองหลวงพระบาง
 
 
Joma Bakery Café สาขาเวียงจันทน์ต้อนรับเราด้วยบรรยากาศสไตล์คาเฟ่ตะวันตก เน้นการตกแต่งด้วยสีขาว ดำ แดง รับกันกับเก้าอี้ไม้เข้าชุด มีทั้งหมด 2 ชั้น รวมไปถึงเก้าอี้ด้านนอกสำหรับผู้ที่อยากนั่งดูรถราสัญจรไปมา
(ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม)
 
นั่งรถไฟความเร็วสูงไปยังวังเวียง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที

บ่าย จากนั้นนำท่านชม ประตูชัย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาวศิลปะของประตูชัย    มองในมุมไกลจะคล้ายศิลปะแบบฝรั่งเศสแต่เมื่อเข้าไปชมในระยะใกล้จะพบว่าเป็นศิลปะแบบล้านช้างสวยงาม และหากท่านใดมีโอกาสได้เดินลอดประตูแห่งนี้ผู้เฒ่าผู้แก่แต่โบราณเชื่อว่าจะมีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต
 
นำท่านเดินทางสู่วังเวียง ขึ้นชม ถ้ำจัง ซึ่งเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก เมื่อขึ้นสู่ถ้ำจังจะสามารถมองเห็นตัวเมืองวังเวียงและลำน้ำซองได้อย่างชัดเจน      
 
มุ่งหน้าสู่สระมรกต (ลาว) หรือ บลูลากูน สาเหตุที่น้ำในสระเป็นสีฟ้าหรือเขียวมรกตเช่นนั้น เป็นเพราะน้ำที่ผุดขึ้นมาจากบาดาลมีแหล่ง  กำเนิดมาจากภูเขาหินปูนที่โอบล้อมวังเวียงเอาไว้ เชิญท่านเลือกเล่นน้ำอิสระ

เย็น      รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น (2)  
พักผ่อนตามอัธยาศัย ณ โรงแรม 

เช้า         รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

 จากนั้นนำท่านชม ประตูชัย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาวศิลปะของประตูชัย มองในมุมไกลจะคล้ายศิลปะแบบฝรั่งเศสแต่เมื่อเข้าไปชมในระยะใกล้จะพบว่าเป็นศิลปะแบบล้านช้างสวยงาม และหากท่านใดมีโอกาสได้เดินลอดประตูแห่งนี้ผู้เฒ่าผู้แก่แต่โบราณเชื่อว่าจะมีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิต
        
จากนั้นนำท่านสู่ พระธาตุหลวง หรือ {พระเจดีย์โลกะจุฬามณี} นับเป็น{ปูชนียสถาน|บูชนียสถาน}อันสำคัญยิ่งแห่ง นครหลวงเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่า พระธาตุหลวง มีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกัน พระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก {สถานที่|ทำเลที่ตั้ง|ที่ตั้ง}นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว {ดังปรากฏว่าตราแผ่นดินของลาว}ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีรูป พระธาตุหลวง เป็นภาพประธานในดวงตรา
 
{ตามตำนานอุรังคนิทานได้กล่าวไว้}ว่า พระธาตุหลวง {สร้างขึ้นคราวเดียวกับการสร้างเมืองนครเวียงจันทน์ หลังจากก่อสร้างพระธาตุพนมแล้ว ผู้สร้างคือ บุรีจันอ้วยล้วย หรือ พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย โดยก่อเป็นอุโมงค์หินคร่อมไว้ อุโมงค์นั้นกว้างด้านละ 5 วา ผนังหนา 2 วา และสูงได้ 4 วา 3 ศอก เมื่อได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว พระเจ้าจันทบุรี จึงได้มีพระราชดำรัสให้เสนาอำมาตย์สร้างวิหารขึ้นในเมืองจันทบุรีหรือนครเวียงจันทน์ 5 หลัง เพื่อให้เป็นที่อยู่จำพรรษาของ พระอรหันต์ทั้ง 5 องค์นั้นด้วย ตามตำนานดังกล่าวระบุศักราชการสร้างว่าอยู่ในช่วง พ.ศ. 238}
 
ในปัจจุบัน {พระธาตุหลวงมีลักษณะ}คล้ายป้อมปราการ เพราะมีการสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมรอบองค์พระธาตุไว้ พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆเอาไว้โดยตลอด สำหรับประตูทางเข้านั้นเป็นประตูไม้บานใหญ่ ลงรักสีแดงไว้ทั้งหมด นอกจากนี้รอบๆองค์พระธาตุใหญ่ยังมีเจดีย์บริวารล้อมรอบอยู่โดยรอบอีหลายองค์ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะเห็นสัญลักษณ์หนึ่งแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาแห่งนี้ปรากฏอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแกะสลักพญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์ และถัดจาก{ประตูทางเข้าใหญ่ประมาณ 100 เมตรจะแลเห็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตั้งอยู่บนฐานสูง พระหัตถ์ทรงถือพระแสงดาบวางพาดไว้บนพระเพลา เล่ากันว่า พระแสงดาบเล่มนี้ทำหน้าที่ปกป้องพระธาตุหลวงซึ่งได้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวลาวทุกคน}
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเวียงจันทน์เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
 
.........  น.        เดินทางสู่ ท่าอากาศยาน (สนามบิน ไฟล์ทบินและเวลาเดินทางขึ้นอยู่กับสายการบินที่ท่านเลือก)
 
.......... น.       เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
 
 
(เนื่องจากทัวร์เป็นโปรเเกรมทัวร์ส่วนตัว เวลาเเละสถานที่เที่ยวต่างๆสามารถยืดหยุ่นได้ หากต้องการตัดสถานที่เที่ยวบางเเห่งออกเเละเพิ่มที่เที่ยวอื่นๆที่อยู่ในเส้นทาง โปรดเเจ้งเจ้าหน้าที่ ทัวร์เราเน้นความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นหลัก)