เที่ยวฮานอยครึ่งวัน ไปไหนได้บ้าง!

.
หลังจากที่ไปเที่ยวซาปามา ก่อนบินกลับไทยเรายังมีเวลาอยู่ที่ฮานอยอีกไม่มาก ด้วยเวลาที่จำกัดเราจะมารีวิวว่าครึ่งวันที่เหลือเราไปเที่ยวไหนกันบ้าง

เริ่มจากมาถึงสิ่งที่เราทำก่อนเลยก็คือกิน สิ่งที่ขาดไม่ได้เราจะได้มีแรง ซึ่งร้านที่เราเลือกเป็นมื้อกลางวันก็คือร้าน Bun Cha ดักกิม ซึ่งอาหาร Bun Cha เป็นอาหารประจำเมืองฮานอย ลักษณะจะเป็นหมูย่างใส่ลงในน้ำซุปที่ถูกปรุงมา กินคู่กับขนมจีน ปอเปี้ยะทอด และผักต่างๆ ตอนเราเห็นตอนแรกก็คิดว่าแบบนี้คือมันเข้ากันยังไง แต่พอได้ลองแล้วก็เป็นรสชาติอร่อยที่แปลกมากๆเลย  ร้านนี้ที่เรามากินมีอายุเกือบ 60 ปีเลยทีเดียว

.
หลังจากกินอาหารกลางวันจนอิ่มท้องที่เราจะไปต่อคือทางรถไฟฮานอย หรือว่า Hanoi Street Train นั่นเอง เรียกว่าที่นี่เป็นจุดเช็กอินสุดฮิตอีกที่นึงเลย ถ้ามาช่วงเวลา 15.30 และ 19.30 ก็จะสามารถเห็นรถไฟวิ่งผ่านได้เลย คล้ายตลาดร่มหุบบ้านเรา จากที่เราไปฝรั่งชาวยุโรปก็มานั่งชิลกันเยอะมาก แล้วก็จะมีพวกร้านต่างๆ ขายอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อเราแวะมาถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยเราก็จะไปต่อกันที่โบสถ์ St. Joseph’s กันต่อ

.
โบสถ์เซนต์โจเซฟ หรือ St. Joseph's Cathedral หรืออีกชื่อหนึ่งคือโบสถ์ใหญ่ฮานอย ถือเป็นศูนย์รวมชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในฮานอย และเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม โบสถ์แห่งนี้เป็นศิลปะแบบโกธิค ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1884 สมัยฝรั่งเศสเข้ามายึดครองเวียดนามในช่วงแรกๆ ซึ่งต้นแบบมาจากมหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral) ในกรุงปารีส ที่นี่ถือเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลที่โดดเด่นของฮานอย นอกจากนี้โบสถ์แห่งนี้ก็ยังมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ นี่แหละ ที่เวลาไปเที่ยวฮานอย ก็ต้องไปแวะถ่ายรูป พลาดไม่ได้เลย น่าเสียดายในวันที่เราไปโบสถ์ปิดเลยได้แต่เก็บภาพบรรยากาศรอบนอกโบสถ์มาให้ทุกคนได้ชมกันแทน โดยปกติแล้วโบสถ์จะเปิดวันอาทิตย์เพราะมีพิธีทางศาสนา

.
ถ่ายรูปเสร็จแล้วเราก็ขึ้นรถไปที่สุสานลุงโฮกันต่อ สุสานโฮจิมินห์ หรือ Ho Chi Minh Mausoleum เนี่ยเป็นสุสานขนาดใหญ่ สร้างด้วยหินอ่อน ดูในรูปว่าใหญ่แล้วของจริงคือใหญ่กว่ามากเลยทุกคน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1973 หลังจากลุงโฮเสียชีวิต เมื่อวันที่ 02 กันยายน ค.ศ.1969 สุสานของลุงโฮ ตั้งอยู่ที่จตุรัสบาสติงห์ เคยเป็นที่ที่ลุงโฮได้อ่านคำประกาศอิสรภาพเวียดนามจากประเทศฝรั่งเศสต่อหน้าชาวเวียดนามที่มาชุมนุมกันนั่นเอง ตอนที่เราไปคือไปถึงตอนบ่ายๆ แล้ว จะเปิดให้เข้าเคารพศพช่วง 7 โมงเช้าถึงประมาณ 10 โมงครึ่ง แต่ว่าจะปิดในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน เพื่อนำศพลุงโฮไปทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาที่ประเทศรัสเซีย

.
เสร็จจากสุสานลุงโฮเราก็ไปต่อกันที่วัดเฉินก๊วก หรือ Tran Quoc Pagoda เป็นวัดที่อยู่ใจกลางเมืองของเวียดนาม ใกล้ชิดกับทะเลสาบตะวันตกของเมืองฮานอย สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ในวัดก็จะมี เจดีย์เฉินก๊วก (Chua Tran Quoc) เป็นเจดีย์ที่สำคัญและเก่าแก่ของชาวเวียดนาม มีความสูง 15 เมตร มีทั้งหมด 11 ชั้นนอกจากเจดีย์แล้วก็ยังมี พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กด้านใน เป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุเก่าแก่ รูปปั้นแกะสลักอายุเป็นพันปี หลังวัดจะมีต้นมหาโพธิ์ใหญ่มากกก ก็เป็นอีกจุดเด่นของวัดนี้ เป็นต้นโพธิ์ที่นำมาจากประเทศอินเดีย ที่ได้รับมอบจากนายกรัฐมนตรีอินเดีย ที่เวียดนามมีแค่ 2 ต้นเท่านั้น อีกต้นหนึ่งอยู่ที่วัดเสาเดียว แต่เราไม่ได้ไปเพราะเวลาจะหมดแล้ว

.
หลังจากนี้เราก็เลยต้องรีบซิ่งกันไปที่สนามบินเพราะใกล้เวลากลับแล้ว สำหรับการรีวิวเที่ยวฮานอยครึ่งวันก็ประมาณนี้